จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ต้นโมก

          โมก เป็นไม้มงคลปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความสุขความบริสุทธิ์เพราะ หมายถึงผู้ที่หลุดพ้นด้วยทุกข์ทั้งปวง ซึ่งเป็นไม้ประดับที่นิยมมาปลูกกั้นแนวรั้ว ที่มีดอกเป็นช่อห้องลงสีขาวสวยมีกลิ่นหอมด้วย ไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 5-12 เมตรชอบแดดจัด และน้ำปานกลางปลูกง่ายทนทาน

       วิธีการปลูกต้นโมก
          การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
          การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงสูงขนาด 12-18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ขุยมะพร้าว : ดินร่วนอัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางบ้างแล้วแต่ความเหมาะสมของทรงพุ่มและการเจริญเติบโตของทรงพุ่ม และควรเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินเดิมที่เสื่อมสภาพไป

           
การดูแลรักษาต้นโมก
แสง ต้องการแสงแดดปานกลาง จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง     

น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง

ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นปานกลาง

ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4-6 ครั้ง


          การขยายพันธุ์ต้นโมก
          มีทั้งการตอน, การเพาะเมล็ด และ การปักชำ แต่วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การปักชำ โดยการปักชำต้นโมกนั้นทำได้โดยการตัดกิ่ง จากนั้นนำเอาไปปักชำไว้ในดินที่ไม่อุ้มน้ำมากเกินไป ที่สำคัญคือกิ่งที่ปักชำนั้นต้องโดนแดดส่องถึงเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต แต่ต้องไม่โดนแดดจัดมากเกินไปนัก ทั้งนี้ต้นโมกไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรู เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร


cr. http://home.kapook.com/view44470.html

สายหยุด

          สายหยุด เป็นกึ่งไม้เลื้อยเนื้อแข็งยากได้กว่า 10 เมตร สามารถตัดแต่งเป็นพุ่มใหญ่ได้ ดอกมีหลายสีทั้งสีแดง สีเหลือง เหตุที่ชื่อสายหยุดเพราะมีกลิ่นหอมจะหอมมากในตอนเช้าจะค่อยๆพอตอนสายจะไม่ค่อยมีกลิ่นใครตื่นสายอดดมกลิ่นหอมๆของดอกสายหยุดเลยที่เดียว ดอกมีลักษณะห้อยตัวลงมาออกดอกตลอดทั้งปี ต้องการแดดพอสมควรแต่ก็สามารถโตได้ในที่ร่ม

          การดูแลรักษา
แสง : สายหยุดเป็นพันธุ์ไม้กลางแจ้ง มีความต้องการแสงแดดมากพอสมควร แต่ก็เจริญงอกงามได้ดีในที่ร่มรำไรด้วยเช่นกัน
น้ำ : ต้องการน้ำปานกลาง ควรปลูกสายหยุดในที่น้ำท่วมไม่ถึง หรือบริเวณที่น้ำไม่ท่วมขัง การรดน้ำควรรดน้ำให้ชุ่มเพียงวันละ 1 ครั้ง

ดิน : ดินที่ใช้ปลูกสายหยุดควรเป็นดินที่มีความร่วนซุยมาก น้ำม่ขัง เพราะสายหยุดเป็นไม้ที่ดูแลรักษาค่อนข้างยาก เป็นไม้ที่โตช้า และการงอกรากยากเช่นกัน
ปุ๋ย : สายหยุดแรกปลูก หรือช่วงที่ต้นยังเล็กอยู่ ควรให้ปุ๋ยไนโตรเจนและปุ๋ยหมักบ้าง แต่เมื่อต้นโตแล้วก็จะหมดปัญหาเรื่องปุ๋ยไป เพราะสายหยุดเป็นไม้ที่ไม่ต้องการปุ๋ยเสริมมากนัก

โรค : ไม่มีปัญหาเรื่องโรคและแมลง รบกวน ถึงขั้นเสียหาย

การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง แต่จะนิยมการเพาะเมล็ดมากกว่าการตอนกิ่ง เนื่องจากสายหยุดเป็นพันธุ์ไม้ที่ตอนกิ่งงอกรากยากมาก และกิ่งตอนจะมีเปอร์เซ็นการตายสูงกว่าต้นที่ได้ จากการเพาะเมล็ด

cr. http://www.maipradabonline.com/maileay/sayod.htm

บานเย็น

           บานเย็น เป็นไม้ประดับล้มลุกอายุหลายปี สูง เมตรกว่าๆที่คนนิยมปลูกมากเพราะมีหลากสีสัน มีหลายสีในต้นเดียว เช่นสีบานเย็น สีเหลือง สีขาว ชมพูและสีจะเปลี่ยนเมื่ออายุมากขึ้น และยังมีกลิ่นหอม เหตุที่ชื่อบานเย็นเพราะดอกจะบานในช่วงบ่ายๆเย็นๆ จะชอบแดดจัด ดอกบานทั่วทั้งปี
          
         วิธีการปลูกและดูแล ใช้ดินร่วนปลูก ต้องการน้ำที่ปานกลาง ควรปลูกในที่ที่มีแสงพอควร

         การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด

cr. http://www.thaitreeflowers.com/view.php?id=20110929151234.8

ชงโค

ชงโค


         ชงโค (อังกฤษButterfly Tree, Orchid Tree, Purple Bauhinia) มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศจีนรวมถึงฮ่องกงและทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ ดังนี้ :ชงโค เสี้ยวเลื่อย (ภาคใต้) , เสี้ยวดอกแดง (ภาคเหนือ) , เสี้ยวหวาน (แม่ฮ่องสอน)กะเฮอ สะเปซี (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ในสหรัฐอเมริกานิยมปลูกกันที่รัฐฮาวายรัฐแคลิฟอร์เนีย,ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา และทางตอนใต้ของรัฐเทกซัส ชงโคเป็นไม้ที่ชอบแดด ควรปลูกในที่ได้รับแสงแดดทั้งวัน ดินปลูกควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำดี มีความชื้นสูง
         ไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงประมาณ 15 เมตร เรือนยอดแผ่กว้างรูปทรงไม่แน่นอน ใบเดี่ยว เรียงสลับ เป็นรูปไข่แยกเป็น 2 แฉกลึก คล้ายใบติดกันหรือใบแฝด มีขนาดประมาณ 20 ซม. ดอกสีชมพูอมม่วง, สีม่วงสดคล้ายกล้วยไม้ และสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตลอดวัน ดอกบานเต็มที่ขนาด 6-8 ซม. ช่อดอกออกตามซอกใบและปลายกิ่ง มีจำนวนดอกน้อย เกสรตัวผู้ 3 อัน ขนาดไม่เท่ากัน ออกดอกเกือบตลอดปี ออกดอกมากในฤดูหนาว การขยายพันธุ์ใช้การตอนกิ่ง ปักชำและเพาะเมล็ด

วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ต้นทองหลาง

ต้นทองหลาง

         ทองหลางเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ลำต้นมีความสูงประมาณ 10 - 20 เมตรผิวเปลือกลำต้นบางมีสีเทาหรือเหลืองอ่อนๆ ลำต้นและกิ่งก้านนั้นมีหนามแหลมคมใบเป็นใบรวมออกเป็นช่อมีประมาณ 3 ใบลักษณะใบเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายใบโพธิ์ขนาดใบกว้างประมาณ 2 -3 นิ้วยาวประมาณ35นิ้วผิวใบเรียบสีเขียวหรือด่างเหลืองๆใต้ท้องใบมีสีขาวขุ่นก้านช่อยาวประมาณ 3-5 นิ้วดอกออกเป็นช่อติดกันเป็นกลุ่มออกตามบริเวณข้อต้นหรือโคนก้านใบลักษณะดอกคล้ายกับดอกถั่วมีแดงหรือชมพูกลีบดอกกว้างประมาณ 1-2 นิ้ว ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 นิ้ว ผลเป็นฝักแบนโค้งเล็กน้อย โคนฝักจะลีบเล็กผลแก่ฝักจะแตกที่ปลายอ้าออกภายในฝักมีเมล็ดเป็นเหลี่ยมนอกจากนี้ลักษณะของต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์








ที่มา : http://www.poolprop.com/

ปาล์ม

ปาล์ม


         ไม้ประดับประเภท ปาล์มเป็นพืชที่มีอยู่ในโลกมานานกว่า 80 ล้านปี ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กระจัดกระจายในเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ปาล์มมีอยู่ทั่วโลกเกือบ 4,000 ชนิด มีไม่กี่ชนิดขึ้นอยู่ในเขตอบอุ่น ทุก ๆ ปี จะพบปาล์มชนิดใหม่ ๆ 1-2 ชนิดอยู่เสมอ และมีการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติด้วย ปาล์มเป็นพืชที่มีวงศ์ใหญ่ที่สุด(รองจากหญ้า) ทั้งจำนวน ชนิด ละปริมาณ ปัจจุบันพบในหลายพื้นที่ทั่วโลก สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย จำแนกได้กว่า 210 สกุล ปาล์มจัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ไม่แตกกิ่งก้านสาขา ก้านใบยาวและใหญ่ ลักษณะใบแตกต่างกัน ลำต้นเป็นข้อ ดอกหรือจั่นขนาดเล็กและแข็งแรงไม่มีกลิ่นหอม ผลโดยมากมีเปลือกแข็ง มีขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจปลูกปาล์มเป็นไม้ประดับมากขึ้น รวมทั้งมีการนำพันธุ์ปาล์มจากต่างประเทศเข้ามาขยายพันธุ์มากขึ้น ซึ่งปาล์มแต่ละชนิดมีลักษณะที่เด่นและสวยงามแตกต่างกัน เช่น ปาล์มพันธุ์อ้ายหมี พันธุ์เชอรี่ และพันธุ์คาร์พ็อกซีลอน ปาล์มเคราฤๅษี ปาล์มช้างร้องไห้ ปาล์มบังสูรย์ ปาล์มเจ้าเมืองถลาง ปาล์มพระราหู ปาล์มเจ้าเมืองตรัง ปาล์มศรีสยาม เป็นต้น




ที่มา  : http://th.wikipedia.org/wiki/ไม้ประดับ

วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แคแสด

แคแสด

         แคแสดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 15-20 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลมค่อนข้างทึบ เปลือกลำต้นสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องตามยาว ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ยาวประมาณ 30-45 ซม. ใบย่อยมี 4-9 คู่ รูปรีถึงรูปไข่ ขอบใบเป็นริ้วเล็กน้อย ปลายใบแหลมและมักจะงุ้มลง มีขนเล็กน้อย มีขนาดยาว 5-12 ซม. กว้าง 2-5 ซม. ดอกเป็นช่อตั้ง ออกที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยมีจำนวนมาก โคนกลีบดอกติดกัน ปลายแผ่เป็นรูปแตร ปลายแยกเป็น 4-5 กลีบ กลีบดอกยับย่น สีส้มแสดถึงสีแดงแสด ดอกทยอยบาน ร่วงง่าย ออกดอกราวเดือน ตุลาค - กุมภาพันธ์ ผลแบนคล้ายฝัก ปลายแหลม ผลแก่สีน้ำตาลดำ ผลแก่จะแตกเป็นด้านเดียวเมล็ดเล็กแบนมีปีก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด จะเริ่มให้ดอกเมื่อมีอายุประมาณ 4 - 8 ปี




ที่มา  : http://www.poolprop.com/